โรคของช่องปากและฟันในสุนัข เป็นโรคซึ่งพบได้บ่อยเวลาที่เจ้าของพาน้องหมามาตรวจที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์ และปัญหาต่าง ๆ ในช่องปาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหากลิ่นปาก มีหินปูน หรือฟันผุ ฯลฯ ล้วนมีส่วนทำให้น้องหมารู้สึกไม่สบายทั้งกายและใจ เพราะอาจมีอาการเจ็บปวดที่เหงือกและฟันคอยรบกวน ซ้ำร้ายกลิ่นปากของน้องหมายังอาจทำให้เจ้าของบางคนถึงกับดีตัวออกห่างเลยทีเดียว (รักแท้แพ้กลิ่นปาก)
เพราะเหตุนี้ เจ้าของจึงควรให้ความสำคัญในการดูแลสุขอนามัยในช่องปากของน้องหมา ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการดูแลสุขภาพในส่วนอื่นๆ ด้วยการช่วยทำความสะอาดช่องปากและฟันให้เค้าอย่างสม่ำเสมอ จะสามารถช่วยให้น้องหมามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี และไม่มีกลิ่นปากอีกด้วยค่ะ
เหตุใดจึงต้องดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้น้องหมา
เนื่องจากโรคช่องปากและฟัน หรือ โรคปริทันต์ นั้น เป็นโรคติดเชื้อซึ่งพบได้มากในสัตว์เลี้ยงทั่วโลก มีรายงานในประเทศสหรัฐอเมริกาว่า สุนัขที่มีอายุมากกว่า 3 ปีมากถึงร้อยละ 85 เป็นโรคเหงือกอักเสบ และยิ่งพบมากขึ้นเมื่ออายุของสุนัขทุกช่วงอายุของสุนัขเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังพบอีกด้วยว่าโรคเหงือกอักเสบนั้นเป็นโรคที่พบได้มากที่สุดในสุนัขทุกช่วงอายุ ในประเทศออสเตรเลีย พบว่ามีสุนัขที่ป่วยเป็นโรคเหงือกอักเสบ มากถึงร้อยละ 95
ทำความรู้จักโรคในช่องปาก
โรคในช่องปาก ดังนี้
โรคเหงือกอักเสบ เป็นการอักเสบบริเวณขอบเหงือก
โรคปริทันต์ เป็นการอักเสบของเหงือก เอ็นยืดปริทันต์ เคลือบรากฟัน และกระดูกเบ้าพัน
การเกิดคราบจุลินทรีย์ (Plaque) มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่สามารถกำจัดออกไปได้ด้วยการแปรงฟัน
ส่วน คราบหินปูน (Tartar, Calculus) ไม่สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการแปรงฟัน ต้องทำการรักษาโยการขูดหินปูนที่คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์เท่านั้น
โรคในช่องปากซึ่งพบได้บ่อยที่สุดและเป็นปัญหา ก็คือ การเกิดหินปูนตามขอบฟัน ซึ่งสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองของเหงือกรอบฐานของฟัน หากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ จะเกิดการติดเชื้อ ส่งผลให้เหงือกอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ และเจ็บคอ
อาการที่พบเมื่อน้องหมามีโรคในช่องปาก
อาการในระยะเริ่มแรกที่สามารถพบได้ เช่น เหลือกบวมและอักเสบ มีคราบจุลินทรีย์ และความหินปูนมาเกาะ
ปากเหม็น เหงือกมีเลือดออกง่าย หากไม่รักษาจะพบอาการที่เป็นมากยิ่งขึ้น เช่น ร่องเหงือกและฟันลึกขึ้น เห็นรากฟัน
ฟันโยกฟันหลุด ถ้าพบเห็น อาการเหล่านี้ก็ให้สงสัยได้เลยค่ะว่า น้องหมาของเรามีปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน
ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วนเลยค่ะ ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามมากกว่าเดิม
เพราะเหตุนี้ เจ้าของจึงควรให้ความสำคัญในการดูแลสุขอนามัยในช่องปากของน้องหมา ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการดูแลสุขภาพในส่วนอื่นๆ ด้วยการช่วยทำความสะอาดช่องปากและฟันให้เค้าอย่างสม่ำเสมอ จะสามารถช่วยให้น้องหมามีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี และไม่มีกลิ่นปากอีกด้วยค่ะ

เนื่องจากโรคช่องปากและฟัน หรือ โรคปริทันต์ นั้น เป็นโรคติดเชื้อซึ่งพบได้มากในสัตว์เลี้ยงทั่วโลก มีรายงานในประเทศสหรัฐอเมริกาว่า สุนัขที่มีอายุมากกว่า 3 ปีมากถึงร้อยละ 85 เป็นโรคเหงือกอักเสบ และยิ่งพบมากขึ้นเมื่ออายุของสุนัขทุกช่วงอายุของสุนัขเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังพบอีกด้วยว่าโรคเหงือกอักเสบนั้นเป็นโรคที่พบได้มากที่สุดในสุนัขทุกช่วงอายุ ในประเทศออสเตรเลีย พบว่ามีสุนัขที่ป่วยเป็นโรคเหงือกอักเสบ มากถึงร้อยละ 95

โรคในช่องปาก ดังนี้




โรคในช่องปากซึ่งพบได้บ่อยที่สุดและเป็นปัญหา ก็คือ การเกิดหินปูนตามขอบฟัน ซึ่งสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองของเหงือกรอบฐานของฟัน หากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ จะเกิดการติดเชื้อ ส่งผลให้เหงือกอักเสบ ต่อมทอนซิลอักเสบ และเจ็บคอ






จุดประสงค์ของการทำความสะอาดฟัน ได้แก่...






ทั้งนี้ ควรฝึกให้สุนัขคุ้นเคยกับการแปรงฟันตั้งแต่อายุยังน้อย

ต้องประกอบไปด้วย มีเหงือกเป็นสีชมพู ฟันสะอาดไม่มีคราบจุลินทรีย์ และไม่มีหินปูน เหงือกไม่ร่นเหงือกอยู่แนบกับตัวฟัน มีขอบเขตของเหงือกที่ชัดเจน
นอกเหนือจากการพาน้องหมาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจสอบช่องปากเป็นระยะแล้ว (ควรทำทุก ๆ 6-12 เดือน) การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟันของสุนัขด้วยตนเองที่บ้าน (Home Care) นั้น นับเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เจ้าของมีบทบาทสำคัญในการช่วยดูแลเอาใจใส่ หากเราหมั่นรักษาสุขภาพช่องปาก และฟันของสัตว์เลี้ยง ไม่เพียงแต่จะลดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์เท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยลดปัญหาโรคช่องปากและฟันดังที่กล่าวมาข้างต้นได้ด้วย เพียงเท่านี้ น้องหมาของเราก็จะมีสุขภาพที่ดี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น