บล็อกเกอร์นี้เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาอินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน(0012006)มหาวิยาลัยมหาสารคาม

วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

***เรื่องเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง***

**..น้องเหมียว..**

แมว 9 ชีวิตตัวจริง ตกตึก 12 ชั้น แค่ฟันหัก!!


แมว 9 ชีวิต


   สำหรับเจ้าแมว 9 ชีวิตตัวนี้ ตอนนี้คงเหลือ 8 ชีวิตซะแล้ว เพราะชีวิตแรกหวิดดับไปเนื่องจากถูกคนใจร้ายโยนลงมาจากแฟลต 12 ชั้น แต่ปาฏิหาริย์มีจริงอย่างที่ว่า เพราะเจ้าเหมียวตัวนี้กลับรอดตาย โดยได้รับบาดเจ็บเพียงฟันหักเท่านั้น

            เว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษ รายงานข่าว แมว 9 ชีวิต เพศเมีย อายุ 7 เดือนตัวหนึ่ง ที่ถูกคนใจร้ายจับโยนลงมาจากตึกสูง 12 ชั้น เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ในเมืองโอลด์บิวรี่ เขตเวสต์มิดแลนด์ ประเทศอังกฤษ ซึ่งหลังจากที่ถูกโยนร่างกระแทกพื้นนั้น เจ้าเหมียวมีเลือดไหลออกมาทางปาก และนอนแน่นิ่งหมดสติไปแล้ว แต่โชคยังเข้าข้างเหมียวโชคร้ายตัวนี้ เมื่อมีผู้ที่อาศัยอยู่ในตึกดังกล่าว ได้ยินเสียงร้องของมัน และรีบประสานให้องค์กรพิทักษ์สัตว์มาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลเบอร์มิงแฮม

            โดยผู้ที่อาศัยอยู่ชั้น 3 ของตึกดังกล่าว เล่าว่า  ได้ยินเสียงเหมือนแมวพยายามตะเกียกตะกายต่อสู้ดังลอดมาจากหน้าต่างชั้นบน ก่อนที่จะเห็นมันร่วงตุ้บลงมาที่พื้นด้านล่างจากความสูงราว 36 เมตรของตัวตึก

            ขณะที่ แพทย์ผู้ทำการรักษา ก็ยอมรับว่าเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยว่า เจ้าเหมียวตัวนี้จะอาการโคม่า หรือถึงขั้นเสียชีวิต แต่หลังการทำปฐมพยาบาลและตรวจร่างกายอย่างละเอียดแล้ว พบว่ามันมีเพียงอาการบาดเจ็บที่สะโพก และฟันหักเท่านั้น แถมอาการของมันก็ดีวันดีคืนอย่างรวดเร็ว ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์จริง ๆ และเมื่อมันเริ่มฟื้นตัว ก็ถูกส่งตัวไปอยู่ในความดูแลที่ราชสมาคมเพื่อการป้องกันการใช้ความรุนแรงกับสัตว์ และได้รับการตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "เอเวอร์เรสต์" เพราะแม้เจ้าเหมียวจะมีปลอกคอติดมาอันแสดงว่าเป็นแมวมีเจ้าของ แต่พวกเขาก็ไม่อาจรู้ชื่อจริง ๆ ของมันได้ ส่วนอาการหวาดระแวงไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ในช่วงแรกนั้น ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนต่างก็เอาใจใส่ดูแลเจ้าเหมียวน้อยเป็นอย่างดี และล่าสุดก็มีผู้อ้างตัวเป็นเจ้าของมารับมันกลับไปเลี้ยงแล้วเรียบร้อยแล้ว

            นับว่าเป็นโชคดีของเจ้าเอเวอร์เรสต์ ที่ยังมีชีวิตรอดได้กลับบ้าน ยังไงก็ขออย่าได้โดนคนใจร้ายรังแกอีกนะเจ้าเหมียว เพราะไม่ว่าจะเป็นชีวิตที่เท่าไหร่ของใคร ใครก็รักทั้งนั้นแหละ...จริงไหม



แปลก! แม่แมวยอมเลี้ยงลูกหนู-ให้ดูดนมด้วย



 แมวกับหนูถือเป็นศัตรูคู่อาฆาตมาแต่ไหนแต่ไรมา แต่สำหรับแมวแม่ลูกอ่อนตัวหนึ่งใน อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ มันกลับเป็นมิตรกับเจ้าลูกหนูตัวน้อย ทั้งยังยอมให้ดูดนมจากเต้าร่วมกับลูก ๆ ของมันเสียด้วยสิ

              ทั้งนี้ น.ส.สมพงษ์ กู่เจริญ อายุ 50 ปี เจ้าของแมว เล่าว่า แม่แมวตัวดังกล่าวมีอายุราว 2 ปี เพิ่งคลอดลูกออกมา 3 ตัว เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา ต่อมามีเพื่อนบ้านขอลูกแมวไปเลี้ยง 2 ตัว จึงเหลือลูกแมวเพียง 1 ตัวเท่านั้น กระทั่งเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ แม่แมวไปคาบลูกหนูสภาพตัวยังแดง ๆ มา ซึ่งคาดว่าอาจจะคาบมาให้ลูกแมวกิน แต่ลูกแมวไม่สนใจ ปล่อยให้ลูกหนูนอนอยู่ร่วมกัน ขณะที่แม่แมวก็ยอมให้ลูกหนูดูดนมร่วมกันกับลูกของมันด้วย และหลังจากข่าว แม่แมวเลี้ยงลูกหนู แพร่ะสะพัดออกไป ก็มีเพื่อนบ้านแห่มาดูเรื่องราวความแปลกนี้กันเป็นจำนวนมาก
              หรือนี่อาจเป็นสัญชาตญาณความเป็นแม่ของเจ้าเหมียวที่มีมากจนสามารถเอ็นดูเจ้าลูกหนูตัวน้อยนี้ได้...ก็น่ารักไปอีกแบบนะคะ^^





รู้ไหม...แมวแกล้งป่วย เมื่อรู้สึกเศร้า หรือไม่ชอบใจ





วารสารการแพทย์ขององค์กรสัตวแพทย์แห่งสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยผลการวิจัยว่า เจ้าเหมียวจะแสดงอาการแกล้งป่วย ไม่ยอมกินอาหาร หรือจะแกล้งอาเจียนตลอดเวลา หากเจ้าเหมียวของคุณรู้สึกไม่ชอบใจ และรู้สึกเศร้า เมื่อถูกย้ายไปอยู่บ้านใหม่ ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ หรือเปลี่ยนแปลงเวลาการให้อาหาร เปลี่ยนแปลงเวลาการทำความสะอาด รวมไปจนถึงการเปลี่ยนเวลาการปล่อยมันออกไปเล่น
          โดยการทดลองครั้งนี้ แบ่งแมวออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มแมวสุขภาพดี ส่วนกลุ่มหลังเป็นแมวที่ป่วยเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง จากนั้นให้แมวทั้ง 2 กลุ่ม มาอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มันไม่ชอบและไม่คุ้นชิน เช่น เปลี่ยนคนดูแล หรือ เปลี่ยนตารางการให้อาหาร และเปลี่ยนเวลาที่จะให้มันออกไปเล่นสลับเวลาไปมา ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ มีจำนวนแมวที่มีท่าทีว่าจะป่วย หรือแกล้งป่วยเท่ากันทั้งสองกลุ่ม แม้ว่าในกลุ่มแมวที่ไม่ได้ป่วยเลย ก็จะแสดงอาการว่าป่วย เหมือนกับแมวที่ป่วยอยู่แล้ว
          เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้วิจัยจึงได้ลองปรับตารางการให้อาหาร การทำความสะอาดให้แก่แมวที่ป่วยเป็น โรคเรื้อรัง และสังเกตท่าทีของมัน ผลปรากฏว่า แมวทั้งสองกลุ่มมีอาการดีขึ้น ขนไม่หลุดร่วงมาก ดวงตาก็เป็นประกายขึ้น และไม่อาเจียนเลยกว่า 2 อาทิตย์ ดังนั้น สรุปได้ว่า การปรับสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น ปรับตารางเวลาที่เหมาะกับเจ้าเหมียว ก็จะสามารถลดจำนวนแมวที่เป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังได้ถึง 75-80 เปอร์เซ็นต์
          รู้อย่างนี้แล้ว หากเจ้าเหมียวของคุณมีอาการป่วย หรืออาเจียนแบบไม่ร้ายแรงแต่เรื้อรัง ก็ลองสำรวจดูว่า คุณได้ปรับเปลี่ยนตารางการใช้ชีวิตประจำวันของเขาหรือไม่ ไม่เช่นนั้นแล้ว อาจถูกเหมียวเจ้าเล่ห์หลอกให้กลุ้มใจได้ง่าย ๆ นะจ๊ะ


**..น้องหมา..**



หมากระโดดเชือกพร้อมกัน 13 ตัว ทำสถิติโลก









 สุนัข นอกจากพวกมันจะชอบเห่าและเห่าเก่งแล้ว ถ้าคุณสังเกตดี ๆ ก็จะเห็นว่า มันก็ชอบกระโดด และก็กระโดดเก่งซะเหลือเกิน กระโดดข้ามรั้วบ้าง กระโดดขึ้นโซฟาบ้าง สารพัดจะกระโดด แต่ถ้าลองเอาพวกมันมาฝึกกระโดดให้เป็นจังหวะล่ะ คุณก็อาจจะพบว่า พวกมันอาจทำลายสถิติโลก เป็นเหล่าสุนัขที่กระโดดเชือกพร้อมกันถึง 13 ตัว และได้จารึกชื่อไว้ในกินเนสส์บุ๊กดังเรื่องต่อไปนี้

            โดยเจ้าของและผู้ฝึกสุนัขทั้ง 13 ตัวนี้เล่าว่า ก็ เพราะบุคลิกลักษณะของเจ้าตูบเหล่านี้ มันชอบการกระโดดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกทั้งยังกระโดดเก่งซะด้วย  แต่ถ้ามันไม่อยากทำ มันก็แค่ไม่ทำ และวิธีที่เราจะฝึกมันให้พวกมันกระโดดพร้อมกันได้ ก็เป็นช่วงเวลาวิ่งเล่นของมันนั่นเอง ที่ต้องเลือกช่วงนี้ก็เพราะจะให้มันเห็นว่า เป็นเรื่องสนุกสนานที่ได้กระโดดพร้อมกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจึงลองมาฝึกพวกมันให้กระโดดพร้อมกันหลาย ๆ ตัว และทำลายสถิติโลกไปเลย

            ตอน นี้ พวกเขาก็ได้ฝึกสุนัขทั้ง 13 ตัวทำลายสถิติโลก ได้จารึกชื่อลงในกินเนสส์บุ๊กเรียบร้อยแล้ว แต่ยัง ยังไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ เพราะพวกเขาเผยว่า พวกเขาจะพยายามฝึกสุนัขให้มากกว่านี้ เพื่อที่จะเพิ่มจำนวนสุนัขให้มากระโดดเชือกพร้อมกัน ทำลายสถิติโลกที่ตัวเองได้ทำไว้ต่อไป 

            แต่ถ้าอ่านแค่นี้ยังไม่เห็นภาพว่ามันจะกระโดดได้จริงเหรอ และกระโดดยังไง ก็มาดูคลิปด้านล่างนี้พร้อมกันเลยจ้า แล้วก็จะเห็นว่า... เก่งมาก ๆ เลย แถมน่ารักด้วยล่ะ





               แปลกแต่น่ารัก ชุนชุน หมาตัวน้อยมี 4 หู





  เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม เว็บไซต์ออเรนจ์นิวส์ ของอังกฤษ รายงานว่า ที่เมืองอูหลู่มู่ฉี ในมลฑลซินเจียง มีสุนัขพันธุ์ปักกิ่งตัวหนึ่ง ซึ่งเจ้าของตั้งชื่อให้กับมันว่า "ชุนชุน" (Shun Shun) มีความโดดเด่นกว่าสุนัขตัวอื่น ๆ จากทั่วโลกเลยก็ว่าได้ เพราะมันมีหูมากถึง 4 หูเลยทีเดียว

         โดย นายเผิง เชียง ซึ่งเป็นเจ้าของเจ้าชุนชุน ได้พูดถึงความแปลกของมันว่า ตั้งแต่ที่ได้เจ้าชุนชุนมาเลี้ยงก็ไม่เคยสังเกตถึงความผิดปกติของมันเลย จนมาเมื่อ 6 เดือนก่อน พอมันโตขึ้น ๆ ถึงเห็นว่ามันมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะที่หูของมัน

         "ตอนที่เจ้าชุนชุนยังเล็กก็ไม่มี สิ่งผิดปกติใด ๆ ให้เห็น มันก็เหมือนกับสุนัขตัวอื่น ๆ ทั่วไป แต่พอมันโตขึ้นนั่นล่ะ ถึงได้รู้ว่ามันมีถึง 4 หู แถมยังมีแนวโน้มว่าหูของมันจะยาวขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย ซึ่งดูได้จาก ณ ตอนนี้ ที่หูพิเศษของมันมีความยาวถึง 10 เซนติเมตรเลยทีเดียว" นายเผิง กล่าวเสริม

         อย่างไรก็ดี หูพิเศษทั้งสองที่มีเพิ่มมานี้ ก็ไม่ได้ทำให้มันต้องนิ่งหรือเศร้าซึมแต่อย่างใด เพราะทุกวันนี้มันยังคงวิ่งเล่นไปตามประสาของมันอย่างสนุกสนาน แถมยังชอบกินมะเขือเทศกับแตงโมเป็นอาหารจานโปรดอีกด้วย ที่สำคัญยังรักความสะอาดอีกต่างหาก ชอบไปเล่นน้ำเพื่อทำความสะอาดตัวมันเองอยู่เสมอ ๆ

         ทั้งน่ารักและขี้เล่นซะขนาดนี้ เชื่อได้ว่าต้องโดนใจเหล่าคนรักสุนัขไปแบบเต็ม ๆ แน่นอน !!


     น่ารัก! สุนัขชิวาวาเต้นระบำสองขา









  ใครเลี้ยงน้องหมาคงเคยพยายามสอนให้เจ้าตูบน้อยยืนสองขาดูบ้างแน่นอน แต่จะยืนได้นานแค่ไหนก็สุดแล้วแต่การฝึกสอนของผู้เป็นนาย และการเรียนรู้ของน้องหมา หรือบางทีก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของเจ้าสี่ขาเป็นหลัก (ว่าไหม) แต่สำหรับเจ้าหมาชิวาวาน้อยที่อยากนำเสนอวันนี้ มันไม่ได้มีดีแค่ยืนสองขาเท่านั้นนะจ๊ะ แต่ยังเดินเตาะแตะตามจังหวะเพลงได้ยังกับเต้นระบำแน่ะ

           และ เจ้าหมาชิวาวาตาใสบ้องแบ๊วตัวนี้ ก็มีนามว่า เอล วิลี่ ไม่รู้ว่าเจ้าของเอาอะไรมาล่อ เจ้าวิลี่น้อยถึงได้ยืนสองขา แถมยังเดินด๊อกแด๊กไปมาราวกับกำลังเต้นรำคลอไปกับเสียงดนตรีแสนจะเร้าใจได้ นานตั้งนาทีกว่าแน่ะ ซึ่งน่าจะเป็นการยืนสองขาของน้องหมาตัวน้อยที่นานที่สุดตัวนึงเลยก็ว่าได้

           แต่ เอ...เต้นตัวเดียวไม่รู้ว่าจะเหงาหรือเปล่า ใครมีน้องหมาอย่าลืมฝึกให้ยืนสองขาเอาไว้นะคะ เผื่อจะมาเป็นคู่เต้นให้เจ้าวิลี่น้อยได้ แหม นึกภาพตามแล้วคงน่ารักไม่เบาเลยทีเดียวล่ะ







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น